โคเคน (Cocaine)
28 มีนาคม 2566

โคเคน เป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ โดยสกัดมาจากใบของต้นโคคา (erythroxylum coca)ซึ่งเป็นพืชที่มีถิ่นที่อยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทอย่างแรง และมีคุณสมบัติเป็นยาชาเฉพาะที่ จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522


cocaine1.jpg


รูปแบบ โคเคนที่นิยมเสพส่วนใหญ่ ได้แก่

1. โคเคนไฮโดรคลอไรด์ จะมีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว เสพโดยการสูดผงยาเข้าโพรงจมูก (snort) หรือนำไปละลายน้ำแล้วฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

2. ฟรีเบสโคเคน จะมีลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาว ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้มคล้ายดินลูกรัง มีชื่อเรียกเฉพาะว่า แคร็ก (crack) หรือ ร็อค (rock) เสพโดยการนำไปเผาไฟแล้วสูบควัน (smoke)เข้าปอด

ความรุนแรงของอาการทางจิต ที่เกิดจากโคเคน จะมีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปริมาณ และความเร็วของโคเคนที่เข้าสู่สมอง หากสูดผงยาเข้าจมูก จะออกฤทธิ์ภายใน 3 – 5 นาที และหากเสพโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำจะออกฤทธิ์ภายใน 15 – 30 วินาที โดยยาจะออกฤทธิ์อยู่ได้นาน 20 – 30 นาที

ผลทางร่างกาย ที่เกิดจากโคเคน ทำให้เกิดภาวะตื่นตัว (alertness) และมีพละกำลัง อาการที่สังเกตเห็นได้ชัดที่สุดคือ มือจะสั่น อัตราการเต้นหัวใจเร็วขึ้น ความดันเลือดสูง อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นจนถึง 45.5 c อาจเกิดอาการชัก หมดสติ ระบบการหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้

ผลทางจิตใจ ที่เกิดจากโคเคน ผู้เสพจะมีอาการเคลิบเคลิ้มเป็นสุข (euphoria) ความวิตกกังวลลดลง อาการประหม่าต่อการเข้าสังคมลดลง มีอารมณ์ทางเพศ การเสพต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดอาการประสาทหลอน ได้แก่อาการพูดพล่ามไม่หยุด เปิดเพลงดังสนั่น ไม่กินอาหาร ไม่หลับไม่นอน และมีความแปรปรวนทางอารมณ์อยู่ตลอดเวลา

การเสพติดโคเคนทางจิตใจ ผู้เสพจะติดใจในฤทธิ์เคลิบเคลิ้มเป็นสุข (euphoria) ในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อไม่ได้เสพ ตัวผู้ติดยาจะมีอาการกระสับกระส่ายกังวลใจอย่างรุนแรง ร่างกายอ่อนล้า และจิตใจหดหู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการที่กล่าวมาข้างต้น ผู้เสพติดโคเคนส่วนใหญ่จึงมักเสพยาติดต่อกันไปเรื่อยๆ ก่อให้เกิดปัญหาการได้รับยาเกินขนาด ทำให้เกิดอาการพิษของโคเคนขึ้นได้ คือมีอาการชัก ระบบการหายใจล้มเหลว หัวใจวาย หรือเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตได้


บทกำหนดโทษ

ปัจจุบัน โคเคน (Cocaine) ถูกควบคุมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มีการควบคุมและบทกำหนดโทษดังนี้


บทลงโทษ.png