เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวผ่านทางสื่อกล่าวถึงยาเสพติดสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า “ice (ไอซ์)” หรือ “กลาส” หรือ “เกล็ดหิมะ” แต่แท้ที่จริงแล้ว ice (ไอซ์) ไม่ใช่ยาเสพติดสายพันธุ์ใหม่ แต่คือยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีนในรูปที่เป็นสารบริสุทธิ์ ซึ่งเพิ่งกลับมาระบาดใหม่อีกครั้งในรูปพรรณใหม่ ใน ค.ศ. 1987 นั่นเอง การกลับมาระบาดของเมทแอมเฟตามีนครั้งนี้มาในรูปพรรณเป็นผลึกคล้ายก้อนน้ำแข็ง ซึ่งในครั้งนี้ได้มีการจับกุมห้องทดลองทางเคมีเถื่อนที่ลักลอบสังเคราะห์เมทแอมเฟตามีนรูปพรรณใหม่นี้ด้วย เนื่องจากกฎหมายระหว่างประเทศได้เข้มงวดกวดขันในการนำเข้า-ส่งออกของแอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีนเป็นอย่างมาก นักค้ายาจึงหันมาผลิตเองโดยใช้วิธีตั้งห้องทดลองทางเคมีขึ้นมาเองเพื่อผลิตแอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีน โดยใช้สารตั้งต้นที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่สามารถหาได้ในประเทศ การลักลอบสังเคราะห์แอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีนนั้นอาศัยขบวนการทางเคมีอย่างง่ายๆไม่มีความสลับซับซ้อนเลย และสามารถทำตามวิธีสังเคราะห์ที่เขียนไว้เป็นสูตรสำเร็จ ซึ่งถ่ายทอดต่อมาในวงการ จึงไม่จำเป็นต้องใช้นักเคมีหรือบุคคลที่เรียนมาทางเคมี ดังนั้นสารเคมีที่ผลิตได้จึงไม่น่าเชื่อถือในด้านความบริสุทธิและอาจมีสารที่เป็นอันตรายเจือปนอยู่มากมาย ต่อมากระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้อีฟีดรีน,ซูโดอีฟรีดีน ฯลฯ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของการสังเคราะห์ยาบ้าเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ซึ่งตามกฎหมายห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย นำเข้าหรือมีไว้ในครอบครอง ดังนั้นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์จึงหายากขึ้นมาก การผลิตในประเทศจึงน้อยลงมาก
ice (ไอซ์)เป็นชื่อเรียกกันในหมู่ผู้ใช้ยาในทางที่ผิด วิธีการที่บุคคลพวกนี้ใช้เสพกันคือนำผลึกเหล่านี้ไปลนไฟให้ระเหิด แล้วสูดไอของเมทแอมเฟตามีนที่ได้เข้าปอด การออกฤทธิ์ก็จะผิดกับการเสพยาบ้าที่ใช้ลนไฟ เพราะการสูดควันของยาบ้าจะให้สารหลายอย่างซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่า ขณะที่การสูดไอของ ice (ไอซ์)จะได้เมทแอมเฟตามีนเพียงอย่างเดียว
ซึ่งกลไกการออกฤทธิ์ของ ice (ไอซ์)หรือเมทแอมเฟตามีน จะทำให้รู้สึกตื่นตัว บดบังความรู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเคลิ้มฝัน อยู่นิ่งไม่ได้ นอนไม่หลับ ก้าวร้าวและรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองเกินไป ซึ่งถ้าเสพในขนาดยาที่สูงยังเพิ่มความต้องการทางเพศซึ่งอาจนำไปสู่การสำส่อนทางเพศซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อเอดส์ได้
การควบคุมตามกฎหมาย ไอซ์ (Ice) จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด