ซูโดอีเฟดรีน (pseudoephedrine)
28 มีนาคม 2566

ชื่อเรียกอื่น       1-phenyl-1-hydroxy-2-methylaminopropane

CAS number   90-82-4

น้ำหนักโมเลกุล  165.24

จุดหลอมเหลว   117-119 องศาเซลเซียส

คุณสมบัติ          เป็นแกรนูลหรือผลึกสีขาว ดูดความชื้นได้ง่าย เสื่อมสลายเมื่อถูกแสง


pseudoephedrine.png



การใช้ที่ผิดกฎหมาย  นำไปใช้ในการผลิตเมทแอมเฟตามีน (methamphetamine) ทั้งนี้เพราะสูตรโครงสร้างของซูโดอีเฟดรีน มีลักษณะคล้ายคลึงกับเมทแอมเฟตามีน อ่านเพิ่มเติมได้จาก http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=94

การใช้ที่ถูกกฎหมาย นำไปใช้ในอุตสาหกรรมยา ทั้งในรูปแบบที่เป็น

1. ยาซูโดอีเฟดรีนสูตรตำรับเดี่ยว ทั้งรูปแบบยาเม็ด ได้แก่ pseudoephedrine 60 mgต่อเม็ด pseudoephedrine 30 mgต่อเม็ด หรือ รูปแบบยาน้ำเชื่อม ได้แก่ pseudoephedrine 30 mg / 1ช้อนชา (5ml.) เป็นต้น

2. ยาสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบ ทั้งในรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ ซึ่งมีหลายสูตร ได้แก่

–  pseudoephedrine + triprolidine

–  pseudoephedrine + chlorpheniramine

–  pseudoephedrine + brompheniramine     เป็นต้น

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา/การนำไปใช้ประโยชน์ทางคลินิก  ยาออกฤทธิ์กระตุ้น alpha-adrenergic receptors บนกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดบริเวณเยื่อบุจมูก ทำให้หลอดเลือดแดงและดำหดตัว ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณที่บวมของเยื่อบุจมูกจะลดลง ทำให้ลดอาการบวมของเยื่อบุจมูก จึงนำไปใช้เป็นยาแก้คัดจมูก ลดน้ำมูก นอกจากนี้ยาจะสามารถเข้าถึงทุกส่วนของช่องจมูก ตลอดจนท่อติดต่อระหว่างจมูกและหูชั้นกลาง ( eustatian tube ) และโพรงอากาศต่างๆ ได้ จึงใช้ร่วมกับยาชนิดอื่นในการรักษาหูชั้นกลางอักเสบ โดยยาจะมีผลลดการบวมรอบ eustatian ostia ทำให้ท่อ eustatian ไม่ตัน ซึ่งจะช่วยลดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนของหูชั้นกลาง รวมถึงยังนำไปใช้แก้หูอื้อ และ บรรเทาอาการปวดหูที่เกิดจากการเปลี่ยนความดันอากาศ เช่นในขณะเครื่องบินกำลัง ลดระดับเพดานบิน

ข้อควรระวังในการใช้ยาซูโดเอฟีดรีน ได้แก่ ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ต่อมลูกหมากโต ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ และต้อหินบางชนิด รวมทั้งผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภาวะเหล่านี้ ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนการใช้ยา

เดิม การควบคุมทางกฎหมาย

– พ.ศ. 2531 ประเทศไทยเริ่มต้นควบคุม Pseudoephedrine โดยควบคุมเฉพาะที่เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3

– พ.ศ. 2534 ได้มีการยกระดับการควบคุม Pseudoephedrine เฉพาะเภสัชเคมีภัณฑ์เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และกำหนดการควบคุม Pseudoephedrine วัตถุตำรับเดี่ยวเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3

– พ.ศ. 2539 ได้ปรับการควบคุมให้ทั้งเภสัชเคมีภัณฑ์และวัตถุตำรับเดี่ยวเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 โดยมีเงื่อนไขยกเว้นซูโดอีเฟดรีน ที่เป็นส่วนผสมในตำรับยาที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาตามกฎหมายว่าด้วยยา

ปัจจุบัน การควบคุมตามกฎหมาย

ซูโดอีเฟดรีนที่เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์ทั้งสูตรเดี่ยวและสูตรผสม รวมถึงซูโดอีเฟดรีนที่เป็นวัตถุดิบ จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2

ซูโดอีเฟดรีนที่เป็นยาสำเร็จรูปทั้งรูปแบบยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยว รวมถึงยาสูตรผสมที่มีซูโออีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบ จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ( ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2555 )ประชาชนที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาดังกล่าว  ต้องไปพบแพทย์ตามสถานพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก เมื่อได้รับการสั่งจ่ายยาดังกล่าวโดยแพทย์ ประชาชนสามารถครอบครองยาเพื่อใช้ในการรักษาตนเองตามเอกสารหลักฐาน ที่แสดงว่าเป็นการครอบครองยาดังกล่าวโดยคำสั่งแพทย์ เช่น ใบรับรองแพทย์ ใบสั่งยา หรือเอกสารกำกับบนซองยา ซึ่งแสดงชื่อและที่อยู่ของสถานพยาบาลที่สั่งจ่าย และ ชื่อของคนไข้ เป็นต้น

บทลงโทษ  ผู้ครอบครองซูโดอีเฟดรีนโดยไม่ได้รับอนุญาต  (กรณีเป็นยาทั้งรูปแบบซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยว และยาสูตรผสมที่มีซูโออีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบ การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จะหมายรวมถึง การครอบครองยาดังกล่าวโดย ไม่มีเอกสารหลักฐานที่ แสดงว่าเป็นการครอบครองยาดังกล่าวตามคำสั่งแพทย์) จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ฐานความผิดครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยควบคุมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มีบทกำหนดโทษ ดังนี้


บทลงโทษ.png


บรรณานุกรม


http://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=684&gid=1

http://en.wikipedia.org/wiki/Pseudoephedrine

ซูโดเอฟีดรีน (pseudoephedrine) พระเอกหรือผู้ร้าย? : อ.ภก.พงศธร มีสวัสดิ์สม ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จาก http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=94

อ่านเพิ่มเติม

– แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้เกี่ยวข้องเมื่อควบคุมซูโดอีเฟดรีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท2

– การดำเนินการควบคุมและกำกับดูแล Pseudoephedrine ของ อย.ข้อมูล ณ พฤษภาคม พ.ศ. 2555

update มกราคม 2566